การทำนายฝัน คืออะไร?

การทำนายฝัน ความฝันคงเกิดขึ้นพร้อมๆกับการเกิดของผู้คน ความฝันก็เลยนับว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ปุถุชนคนธรรมดาปกติอย่างพวกเราๆท่านๆจำเป็นต้องเผชิญ อีกทั้งจากการได้ฝันเอง ได้รับรู้จากการแจ้งของคนที่อยู่รอบข้าง
ที่มาของความฝันนั้นมีมายังไง คนใดกันแน่เป็นคนฝันก่อนเป็นคนแรกของโลก อาจไม่นำมากล่าวถึง เนื่องจากดูเหมือนจะหาประโชยน์อันใดมิได้เลย จะแปลงเป็นปัญหาโลกแตกที่จำเป็นต้องโต้เถียงกันไม่รู้ ราวกับ ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกันนั่นเอง
ในที่นี้ก็เลยขอกล่าวถึงเหตุที่ให้เกิดความฝัน ความรู้สึกของความฝัน เวลาที่ความฝัน ฝันทุกวัน ความฝันในทางวิทยาศาสตร์ สีของความฝัน รวมทั้งการทำนายฝัน
เหตุให้เกิดความฝัน การทำนายฝัน
มีหลักฐานทางศาสนาพุทธกล่าวไว้ว่า มีเหตุให้เกิดความฝันหลายประการ แม้กระนั้นเพื่อรู้เรื่องง่ายรวมทั้งนึกออก ก็เลยขอยึดหลักที่พระพุทธเจ้าบอกไว้ 4 ประการ คือ
1 บาปนิมิต คือ วิบากกรรมที่ทำไว้ชาติก่อนมีผล ว่ากันตามหลักเรื่องจริง บาปที่พวกเราทำมาทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ไม่ว่าดีหรือเลวทราม ย่อมรวมอยู่ที่ใจของมนุษย์ กล่าวให้รู้เรื่องง่ายก็คือ จิตใจของพวกเราย่อมรับทราบรับรู้ในสิ่งที่ตนปฏิบัติมา ดังนั้นเมื่อบาปจะได้ผล ก็จำเป็นต้องออกมาจากจิตใจของผู้นั้น บางเวลา วิบากกรรมที่ทำนั้นก็ชี้ให้เห็นทางความฝัน บางคนบางทีอาจมองเห็นฝันจำพวกนี้คือเรื่องปกติ เกิดเรื่องพูดปดไปโน่น แม้กระนั้นถ้าหากเรียนธรรมะมากๆจะเข้าดวงใจในเรื่องผลบุญกรรมที่กล่าวข้างต้น
2 จิตนิวรณ์ หมายความว่า จิตของพวกเราพะวักพะวงหรือพิจารณาถึงสิ่งใดมากๆหรือฝังจิตฝังใจกับบางอย่างมากเหลือเกิน จิตนิวรณ์นี้เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเอง โดยอาศัยความมักมาก โกรธ หลง เป็นต้นเหตุ ชูตัวอย่าง บางคนใฝ่ฝันต้องการไปต่างประเทศ ก็จะคิดภาพในใจว่า เค้าหน้าต่างประเทศต้องเป็นแบบงั้นแบบงี้ ควรมีโน่นมีนี่ที่มองใหญ่มโหฬารหรือรุ่งโรจน์ บางคนถึงกับฝันมองเห็นเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือลุกลามไปถึง 7 ตัวก็มี
3 เทพสังหรณ์ เป็น เทวดา เทพอารักขา อีกทั้งที่เป็นมิตรแล้วก็เป็นศัตรูกับพวกเรา มาดลจิตบันดาลใจให้พวกเราเกิดความฝัน ทั้งๆที่พวกเราบางครั้งอาจจะไม่ได้อยากต้องการฝันก็ได้ กรณีแบบนี้ อาจะคิดว่าเป็นความหวังดีของเทพเจ้าป้องกันที่มีต่อพวกเราก็ได้ ที่บอกเหตุให้พวกเรารู้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นอยู่กับชีวิตของพวกเรา บางคราวบางทีอาจตรงกับความฝัน แต่ว่าครั้งคราวก็บางทีอาจเป็นตรงกันข้ามไปเลยก็มี หรือพวกเราสามารถไปเปรียบเทียบกับการ ทำนายฝัน
4 ธาตุกำเริบ หมายคือ คนที่รับประทานอาหารมาก หรือทานอาหารเปลี่ยนไปจากปกติ ไม่ถูกความจำต้องการของร่างกาย ไม่ถูกกาลไม่ถูกเวลา เปรี้ยวจัด หวานจัด เค็มจัด ร้อนมาก เย็นจัด หรือบางทีอาจรับประทานไม่เพียงพอ ในที่สุดก็เลยทำให้กระเพาะรวมทั้งไส้ไม่ปกติ ร่างกายเลยเกิดปฎิกิริยา ปวดศรีษะตัวร้อน นอนไม่ค่อยหลับ พอเพียงหลับปุบปับก็ฝันปั๊บโดยทันที บางโอกาสพวกเราหลับไปก่อน อาการเจ็บไข้หรือไม่ปกติของร่างกายเกิดขึ้นโดยไม่ทันรู้สึกตัว จิตใจเกิดความรู้สึกในรูปแบบของความฝัน ความฝันในรูปแบบนี้เป็นกันมาก น่าจะเข้าทำนอง รับประทานมาก ถ่ายมาก นอนมาก ฝันมาก มากกว่า

ความรู้สึกของผู้ฝัน
ผู้ที่เกิดความฝัน เมื่อตื่นมามักจะมีความรู้สึกแตกต่างกัน บางคนตื่นจากฝันก็มัวตรึกตรองเรื่องฝัน คิดอยู่ได้อีกทั้งวี่ตลอดวัน บางโอกาสจำความฝันบางตอนมิได้ ก็พากเพียรคิดทบทวนอยู่นั่นล่ะ คิดจะจนกระทั่งหลับไปฝันก็ยังมี บางคนตื่นมาก็รีบวิ่งหามิตรสหายให้ช่วยทำนายฝัน บางรายวิ่งโร่ไปพบพระช่วยแก้ความฝัน บางคนถึงกับกลัวความฝัน จำเป็นต้องเข้าวัดฟังธรรม รดน้ำมนต์ก็มี อย่างฝันร้ายก็จำเป็นต้องรดน้ำมนต์ขับไล่ต่างๆครั้งฝันดีก็จำต้องรดน้ำมนต์อีก นัยว่าเป็นการเอาโชคเอาชัย จะได้ลาภสมกับความฝัน
ฉะนั้น บางคนพอเพียงมีผู้มาขอให้ช่วยทำนายฝัน ก็เลยคิดบันเทิงใจ พูดเท็จส่งๆไป โดยที่ตัวเองก็ไม่มีญาณยอดเยี่ยมหยั่งทราบสักนิดสักหน่อย คนฝันถ้านับว่าเป็นจริงเป็นจัง ปฏิบัติตามเพื่อนฝูงแนะนำทุกสิ่ง ถ้าทำนายดีดีแล้วไป ถ้าเกิดพบสหายสัปดนหรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน คนที่เชื่อก็บางทีอาจเสื่อมเสียไปเลยก็มี ชูตัวอย่าง นอนจู่ๆเกิดฝันว่าผัวหรือเมียของตนไปนอนกับหญิงอื่น พอเพียงตื่นมาก็หนักใจ รีบวิ่งแจ้นไปพบเพื่อนฝูงหรือแพทย์ทายใจทำนายฝัย แม้เขาผู้นั้นยอมรับฟังเฉยๆหรือปลอบประโลมใจก็แล้วไป ถ้าไปพบคำทำนายแผลงๆเข้า อาจจะบันเทิงใจแน่ ผัวเกิดรู้สึกไม่ไว้ใจเมีย เมียเริ่มจับไม่ถูกผัว ชีวิตครอบครัวก็รังแต่ว่าจะบาดหมาง แหนงใจกัน บางครั้งบางคราวบางทีอาจถึงกับขนาดวิวาททำร้าย แล้วเลิกร้างในที่สุด
ผลที่ได้จากความฝัน
นักอ่านบางคนบางทีอาจไม่ได้นึกฝันว่า ฤทธิ์เดชของความฝันนั้นมีมากมายถึงขั้นนี้ ด้วยเหตุที่พวกเรามักไม่ค่อยเอาใจใส่เหตุนิดหน่อยนี่เอง พวกเราก็เลยมักเจอความโกลาหล เนื่องจากเหตุอันน้อยนิด นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว
บางคนมัวเมาอยู่กับความฝัน จนถึงไม่เป็นอันรับประทานอันนอน รอเวลาที่ลาภในฝันจะมาถึง บ้างก็ฝันร้ายจนกระทั่งรับประทานมิได้นอนไม่หลับ จำเป็นต้องวิ่งรอกรดน้ำมนต์เจ็ดวัดเจ็ดวา ว่าจ้างหมอปราบผีมาขจัดทำร้าย เสียเงินเสียทองไปมากมาย เผลอๆกลายเป็นเหยื่อแก็งค์ต้มตุ๋นก็มี นี่แหละคือผลที่ได้จากฝัน
รูปแบบของความฝัน
รูปแบบของความฝันนั้น เพื่อรู้เรื่องกันง่ายๆบางทีอาจแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ
1 ฝันในยามหลับ ฝันในรูปแบบนี้ได้กล่าวมาข้างต้นพอควร ท่านผู้ใดกันไม่เคยฝันไหมรู้จักความฝัน ก็ค่อนข้างจะเหลือเกิน ละเว้นคนวิกลจริต รวมทั้งคนวิปลาสแค่นั้นที่ไม่รู้ความฝัน เพราะว่าคนวิกลจริตฝันแล้ว แม้กระนั้นไม่รู้จักหรอกว่าตัวเองฝัน สาเหตุจากจิตไม่สมประกอบของผู้ฝัน
2 ฝันในยามตื่น ฝันในรูปแบบนี้เกิดเรื่องน่าพิจารณา น่าสนใจมาก นักอ่านบางคนบางทีอาจแย้งว่า บ้าไปหรือไม่ มีที่ไหนมนุษย์เราจะฝันในเวลาตื่น มีแน่ๆ ก็จำพวกช่างเพ้อช่างฝันอย่างไรเล่า พวกเรามักเรียกฝันอย่างงี้ว่า ในฝัน เพ้อเจ้อ ฝัน เพ้อฝัน ฝันลมๆแล้งๆ อื่นๆอีกมากมาย อันที่จริงแล้ว มันก็คือความนึกคิด ที่พวกเรานึกถึงอะไรต่อมิอะไรที่ยังมาไม่ถึงนั่นเอง ความฝันรูปแบบนี้มีทางเป็นได้ อีกทั้งทางบวกรวมทั้งทางลบ ขึ้นกับว่าผู้ฝันจะมีความสามารถ ที่จะปฎิบัติตนให้เป็นไปตามที่ตนคิดหวังมากน้อยแค่ไหน
ความฝันในรูปแบบนี้ บางทีอาจแปลความหมายได้ว่า ก็คือ ความมุ่งหวังของผู้คนนั่นเอง ถ้าเกิดมนุษย์เราอยู่อย่างไร้ความคาดหมาย ก็ไม่รู้เรื่องจะมีชีวิตอยู่ไปเพราะอะไร ความปรารถนาก็คือความหวัง ความตั้งอกตั้งใจของผู้คนที่จะดำรงชีวิตไปสู่เป้าหมายที่ตนจำต้องการ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอจะมองเห็นแล้วว่า มนุษย์เราควรมีความฝัน จะต้องมีความคาดหวัง แม้กระนั้นขอให้ความฝันหรือความมุ่งมาดนั้น ไม่เกินความสามารถของตน เป็นความฝันที่ดำเนินอยู่บนครั้งทางที่ข้อเท็จจริง
3 ฝันในยามเคลิ้ม เร่าเรียกฝันในรูปแบบนี้ว่า “ละเมอ” คงไม่ผิด ซึ่งบางคราวร้ายแรงจนกระทั่งเลือดตกยางออกก็มี ด้วยบางคนละเมอจนถึงตกจากเตียง ขาหัก ปากคอแตก บางคนละเมอดุคนใกล้ตัว คนใกล้ตัวบังเอิญได้ยินเข้าพอดิบพอดี ก็คิดถัดไปแล้วกันว่า จะเกิดอะไรขึ้นถัดไป แม้กระนั้นส่วนมากความฝันรูปแบบนี้มักจะเป็นไปในทางตระหนกตกใจ เป็นต้นว่า ละเมอมองเห็นผี ละเมอว่าตกจากที่สูงๆละเมอว่า ถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ – ลูกหนี้คิดคดทรยศไม่ยอมชำระเงิน อื่นๆอีกมากมาย
การทำนายฝัน ฝันทุกวัน
ตามตำราโหราศาสตร์โบราณ ความฝันจะให้ท่านหรือโทษแก่คนไหนกันนั้น สามารถแบ่งเป็นความฝันทุกวันอีกด้วย โดยปรากฎเป็นบทกลอน ดังต่อไปนี้
วันอาทิตย์เกิดนิมิตแก่คนไหนกัน คนสามัญเป็นผู้ใด้ใช่คนฝัน
แม้มีจิตเกิดนิมิตในวันจันทร์ ทุกขลาภนั้นได้ตรงวงศ์วานว่านเครือมิตร
วันวันอังคารได้เกิดฝันนั้นว่าแน่ ดังเช่นบิดามารดาพวกเราเองเก็งไม่ผิด
ฝันวันพุธได้ลูกเมียติด สมดังจิตที่นึกฝันนั้นแน่ๆ
ฝันวันพฤหัสฯแปลกเข้าฝันสู่ ด้วยดังเช่นอาจารย์ผู้สั่งสอน
ฝันวันวันศุกร์ทุกขลาภจะครั้งจร นั้นจะย้อนแก่สัตว์ข้าทาสในเรือน
ฝันวันเสาร์ไม่ต้องทายใจก็ทราบผล อย่างเช่นตนผู้ฝันนั้นยากเสมือน
ภายในเจ็ดวันฝันมาอย่าแชเชือน รีบทราบเตือนจำเป็นแบบเรียน
การทำนายฝัน การแก้ฝัน
คนเฒ่าคนแก่มักจะบอกลูกหลานถึงแนวทางแก้ฝันคล้ายกัน กล่าวคือ ถ้าเกิดผู้ใดกันแน่เกิดฝันร้าย จะแนะนำให้แก้ความฝันกับน้ำ ด้วยการตื่นจากฝันร้ายเมื่อใด ก็อย่าเพิ่งจะพูดจากับคนใด ให้มุ่งไปล้างหน้าสิ่งเดียว แล้วกล่าวขอให้ฝันร้ายนั้นควรลอยไปกับสายน้ำที่ราดรดไป การแก้ฝันดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว เหมือนเป็นการวิงวอนให้แม่คงคาช่วยดับทุกข์ ฝันร้ายจะเปลี่ยนเป็นดี
ความฝันในเชิงจิตวิทยาและก็วิทยาศาสตร์
ความฝัน เกิดจากแรงผลักดันในจิตไร้สำนึก ที่จะตอบสนองความจำเป็นต้องการที่เก็บกดไว้…นั่นคือความคิดเห็นของ Sigmund Freud (ซิกข์มันด์ ฟรอยด์) นักจิตวิทยาชื่อก้อง ในขณะที่ Hobson (ฮอบสัน) แล้วก็ Mccarley (แมคคาเลย์) ก็ได้เสนอแนวคิด Activation systhesis model ซึ่งสรุปสั้นๆว่า ความฝันนั้นเกิดจากการดำเนินงานของระบบสมองในเวลาหลับ รายละเอียดของความฝันจะเกี่ยวกับกับการเคลื่อนทั้งนั้น
แต่ ในวงการวิทยาศาสตร์มีความเชื่อว่า ความฝันเป็นความจำต้องการรากฐาน {Need} ของคนเรา เพื่อรักษาภาวะความสมดุล (Equilibrium) ของจิตใจและก็ร่างกาย เพราะเหตุว่าจากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า ผู้ที่ถูกปลุกให้ตื่นจากการนอนเป็นช่วงๆโดยตลอดกันหลายคืน จนกระทั่งส่งผลให้ไม่สามารถที่จะฝันได้นั้น ปรากฎว่า ผู้อดฝันทั้งหลายแหล่จะมีอารมณ์อารมณ์เสีย โกรธง่าย บางคนถึงขนาดจิตหลอนก็มี พอให้ผู้อดฝันทั้งหลายแหล่ได้ได้โอกาสนอนตามเดิม โดยไม่มีการก่อกวนเลยนั้น ปรากฎว่า หลับเป็นเวลายาวนานกว่าธรรมดา นัยว่าเป็นการนอนเพื่อฝันทดแทน การศึกษาค้นคว้าวิจัยในครั้งนี้ยังเจออีกว่า ความฝันสามารถทำให้สมองของมนุษย์ดำเนินงานเกี่ยวกับความจำได้ดีขึ้นอีกด